เรื่องราวเกี่ยวกับหนุ่มอเมริกันผิวสีที่เดินทางไปเยี่ยมบ้านของแฟนสาวซึ่งเป็นคนผิวขาว เขาเริ่มติดอยู่ในกับดักของเหตุผลแท้จริงที่น่าขนลุก ของการเชิญเขาไปที่บ้าน เขาได้การค้นพบสิ่งที่สร้างความกังวลใจที่มากขึ้นเรื่อยๆ ก็นำเขาไปพบกับความจริงที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน
ช่วงต้นทศวรรษที่ 70 เป็นช่วงเวลาที่วุ่นวายยุ่งเหยิงอย่างมากในอเมริกา คนในชาติต่างก็แบ่งขั้วจากความแตกต่างกัน มันเป็นยุคของความขัดแย้ง ตั้งแต่ฮอตแพนต์ ศิลปะแนว ปีเตอร์ แมกซ์ และ แกล็มร็อกเกอร์ อย่าง เดวิด โบวี ไปจนถึงปัญหาใหญ่ ๆ อย่างเวียตนาม, รัฐเคนทักกี และการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เพื่อสิทธิมนุษยชน และในทุก ๆ ชุมชนในประเทศนี้ การขึ้นรถเมล์ร่วมกันของคนผิวขาวและดำนั้น เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก แต่สำหรับอเล็กแซนเดรียแล้ว มันคือความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 นักโทษ 2 คนฝังศพที่ถูกเผาของนักโทษตลอดชีวิต 2 คนในฟาร์ม Parchman อันเลื่องชื่อของรัฐมิสซิสซิปปี้ ผู้ต้องขังสูงวัยคนที่สามเล่าเรื่องราวของพวกเขา พวกเขาถูกจำคุก 65 ปีในข้อหาฆาตกรรมที่ไม่ได้ก่อขึ้น โดยถูกนายอำเภอในพื้นที่ล้อมจับขณะซื้อเหล้าเถื่อนให้กับเจ้าของคลับแห่งหนึ่งในแมนฮัตตันซึ่งพวกเขาเป็นหนี้อยู่ ในฉากย้อนอดีต เราจะเห็นคู่รักที่แปลกประหลาดคู่นี้มาพบกัน (เรย์เป็นนักต้มตุ๋นที่พูดจาคล่องแคล่ว และคล็อดเป็นผู้ชายจริงจังที่กำลังจะเริ่มทำงานเป็นพนักงานธนาคาร) การสูญเสียนาฬิกาของเรย์ (เงินสเตอร์ลิง จากพ่อของเขา) การฆาตกรรมและการพิจารณาคดี ความยากลำบากของ Parchman และความสัมพันธ์รักๆ เกลียดๆ ของคล็อดและเรย์ ขณะที่พวกเขาทะเลาะเบาะแว้งกันและหาทางหลบหนีมาเป็นเวลา 65 ปี
แจ็ค นิโคลสัน, เฮเลน ฮันท์, เกร็ก คินเนียร์ และ คิวบา กู้ดดิ้ง จูเนียร์ นำแสดงใน AS GOOD AS IT GET หนังตลกสุดฮิต ผลงานการกำกับของเจมส์ แอล. บรูกส์ นิโคลสัน กับผลงานการแสดงที่น่าทึ่งในบทบาทของ เมลวิน ยูเดลล์ นักเขียนนิยายปากคอเราะร้ายที่มีนิสัยย้ำคิดย้ำทำ แต่เมื่อเพื่อนบ้านเขา ไซม่อน ต้องเข้าโรงพยาบาล เมลวินจึงจะเป็นต้องรับเลี้ยงสุนัขของไซม่อน...
"เอ็มเม็ตต์ ทิลล์" เป็นภาพยนตร์สะเทือนอารมณ์เกี่ยวกับเรื่องจริงในการแสวงหาความยุติธรรมอย่างไม่ลดละของเมมี่ ทิลล์-โมบลีย์ ให้กับเอ็มเม็ตต์ ทิลล์ลูกชายวัย 14 ปีของเธอ ซึ่งโดนรุมประชาทัณฑ์ขณะไปเยี่ยมญาติของเขาในรัฐมิสซิสซิปปี้เมื่อปี 1955 เส้นทางอันปวดร้าวขมขื่นของมามี่ที่แปรเปลี่ยนเป็นการลงมือทำให้เราได้เห็นพลังอันยิ่งใหญ่เป็นสากลของแม่ในการเปลี่ยนแปลงโลก
นักสืบตำรวจฟิลาเดลเฟียผิวสีคนหนึ่งถูกสงสัยว่าเป็นการฆาตกรรมในท้องถิ่นโดยไม่ได้ตั้งใจขณะเดินทางผ่านเมืองมิสซิสซิปปี้ที่มีเชื้อชาติเป็นปรปักษ์ และหลังจากเคลียร์ได้หัวหน้าตำรวจก็ขอร้องอย่างไม่เต็มใจให้สอบสวนคดีนี้
ในภาพยนตร์คลาสสิกของสแตนลีย์ เครเมอร์ ตำนานดาราจอเงิน ซิดนีย์ พอยเทียร์ และโทนี่ เคอร์ติส รับบทนักโทษสองคนที่กำลังหลบหนีจากแก๊งแรงงานฝั่งใต้ พวกเขาถูกตรึงไว้ด้วยกันด้วยโซ่เหล็กที่ตัดไม่ขาด และแยกจากกันด้วยความเกลียดชังที่เขามีให้กัน
ทารกชาวแอฟริกัน-อเมริกันที่ถูกแม่ที่ติดยาทอดทิ้งได้รับการรับเลี้ยงโดยนักสังคมสงเคราะห์ผิวขาวและสามีของเธอ หลายปีต่อมา แม่ของเด็กพบว่าลูกชายของเธอไม่ได้ตายอย่างที่เธอคิดไว้ก่อนหน้านี้ และเธอจึงไปศาลเพื่อนำเขากลับคืนมา
เรื่องราว ภาพยนตร์จากการกำกับของ Jane Campion ผู้กำกับรางวัลออสการ์จากเรื่อง The Piano และได้ Kate Winslet มาแสดงนำโดยสวมบทเป็นรูธ หญิงสาววัยรุ่นที่งดงามตามแบบสตรีแท้ แต่ต้องการแสวงหาสิ่งที่ขาดหายไป จนได้มาเจอกับ พีเจ วอเดอร์ส ทำให้รูธได้รับประสบการณ์กับพฤติกรรมที่ป่าเถื่อน แต่เต็มไปด้วยความจริงใจ ส่วนพีเจ ก็ตกเป็นทาสความงามของรูธ ซึ่งทั้งคู่ต่างมองเห็นสิ่งที่ขาดหายไปในกันและกัน
Called “Juggernaut,” these are the unmanned combat drones developed by the Republic of San Magnolia in answer to the attacks by the autonomous unmanned drones of the neighboring Empire of Giad, the “Legion”. But they’re only unmanned in name. In reality, they are piloted by the Eighty-sixers—those considered to be less than human and treated as mere tools. Determined to achieve his own mysterious ends, Shin, the captain of Spearhead Squadron, which is comprised of Eighty-sixers, continues to fight a hopeless war on a battlefield where only death awaits him.
Set in a seedy bedsit, the cowardly landlord Rigsby has his conceits debunked by his long suffering tenants.
Sequel to 'Till Death Us Do Part' with the bad tempered Alf Garnett, who has not mellowed with the years and is as bigoted as ever.
